สมุดเบาใจคืออะไร
สมุดเบาใจ คือเครื่องมือช่วยทบทวน วางแผนชีวิต และสื่อสารเจตนาล่วงหน้าเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่วงสุดท้ายในชีวิตของท่าน (ไม่นับรวมการเสียชีวิตด้วยโรคเฉียบพลันหรืออุบัติเหตุ) เพื่อที่ครอบครัวจะได้ทราบเจตนาของท่าน ไม่ต้องเดาใจในกรณีที่ท่านป่วยระยะสุดท้ายและไม่สามารถสื่อสารได้ และช่วยลดข้อขัดแย้งระหว่างครอบครัวกับทีมสุขภาพ
สมุดเบาใจ ช่วยสำรวจมุมมองต่อชีวิตและความตาย ประกอบการวางแผนดูแลสุขภาพล่วงหน้า การหาผู้สื่อสารเจตนาแทนท่าน รวมไปถึงการจัดการร่างกายและงานศพ
การเขียนสมุดเบาใจ ทำได้ในทุกช่วงของชีวิต ทั้งช่วงที่ท่านมีสุขภาพข็งแรง และช่วงที่ท่านเจ็บป่วย การเขียนสมุดเบาใจ ท่านจะได้ทบทวนชีวิต สื่อสารการวางแผนสุขภาพ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ท่านมีคุณภาพชีวิตช่วงท้ายที่ดี และจากไปอย่างสงบ
สมุดเบาใจ มีรายละเอียดทางการแพทย์ไม่มาก เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละคนมีเงื่อนไขหรือภาวะโรงไม่เหมือนกัน การวางแผนดูแลทางการแพทย์นอกเหนือจากนี้ เป็นสิ่งที่ท่านต้องสื่อสารวางแผนกับทีมสุขภาพของท่านต่อไป ท่านอาจติดต่อได้ที่หน่วยดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) ของโรงพยาบาลที่ท่านสังกัด
สมุดเบาใจ มีผลทางกฎหมายตาม พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 12 อย่างไรก็ตาม ในสังคมไทย สิ่งที่ช่วยห้เจตนาของท่านเป็นจริงได้มากกว่าคือการที่ท่านสื่อสารข้อมูลในสมุดเบาใจกับครอบครัว คนใกล้ชิด จนพวกเขาเข้าใจเจตนาของท่านอย่างชัดเจนและสอดคล้องกัน
ท่านสามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลในสมุดเบาใจได้ทุกเมื่อ หากมีการเปลี่ยนแปลง ท่านควรลงชื่อกำกับ หรือทำสมุดเบาใจเล่มใหม่ โดยเล่มที่มีผลในกฎหมายคือเล่มล่าสุด
ท่านสามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลในสมุดเบาใจได้ทุกเมื่อ หากมีการเปลี่ยนแปลง ท่านควรลงชื่อกำกับ หรือทำสมุดเบาใจเล่มใหม่ โดยเล่มที่มีผลในกฎหมายคือเล่มล่าสุด
เมื่อท่านกรอกข้อมูลในสมุดเบาใจออนไลน์แล้ว ท่านควรเซ็นกำกับรับรองเอกสารที่หน้า 6 จากนั้นส่งต่อข้อมูลให้ครอบครัวและผู้สื่อสารเจตนาแทนได้เซ็นรับรู้หน้า 12
อ้างอิง:
พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 12
บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยึดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้
การดำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาตาวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขได้หฏิบัติตามเจตนาของบุคคลตามวรรคหนึ่งแล้ว มิให้ถือว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดและให้พันจากความผิดทั้งปวง
ข้อมูลส่วนตัว
ความรู้เกี่ยวกับการป่วยระยะสุดท้าย
เมื่อชีวิตมาถึงจุดหนึ่ง ไม่ว่าสูงวัย หรือเจ็บป่วย จะมีช่วงที่ท่านเข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิต ซึ่งหมายถึง ช่วงที่อาการป่วยทรุดลงอย่างรุนแรง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ในช่วงนี้ ท่านอาจอ่อนเพลีย ไม่อยากกินอาหาร เคลื่อนไหวไม่สะดวก เดินหรือลุกไม่ได้ ต้องมีผู้ดูแลอย่างต่อเนื่อง ต้องการพักผ่อน แต่ด้วยประสาทรับรู้ที่เสื่อมลง ท่านจึงไม่ค่อยรับรู้ความเจ็บปวดมากนัก จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง ร่างกายจะค่อยๆ หยุดทำงานและเสียชีวิต
การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care)
เมื่อผู้ป่วยป่วยด้วยโรคที่คุกคามชีวิต รักษาให้หายได้ยาก การดูแลแบบประคับประคองจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากการรักษาให้หายขาด มาสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตควบคุ่ไปกับการรักษา โดยป้องกันและบรรเทาทุกข์ทรมานต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยและครอบครัวเขาไปดูแลปัญหาสุขภาพตั้งแต่ระยะแรกของโรค ประเมินและดูแลปัญหาสุขภาพกายใจ สังคม และจิตวิญญาณ จนกระทั่งผู้ป่วยจากไปอย่างสงบและมีศักดิ์ศรี
การดูแลประคับประคอง มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต ไม่ยื้อชีวิต และไม่เร่งการตาย
การกู้ชีพเพื่อช่วยชีวิต - การยื้อชีวิตเพียงเพื่อยืดการตาย
การกู้ชีพเพื่อช่วยชีวิต คือการช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤตที่ยังมีโอกาสรอดชีวิตและฟื้นคืนสู่สภาพปกติ (เช่น ประสบอุบัติเหตุ ป่วยเฉียบพลัน) ด้วยการกดนวดหัวใจ การช๊อคกระแสไฟฟ้า การใส่ท่อช่วยหายใจ ควบคู่กับการรักษาอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น การใช้เครื่องช่วยหายใจ การให้ยากระตุ้นหัวใจ การใส่สายสวนปัสสาวะ การให้อาหารทางสายอาหาร เป็นต้น
ในขณะที่การยื้อชีวิตผู้ป่วยระยะท้าย มักเป็นการักษาที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เพราะการรักษาข้างต้นไม่ทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคหรือทำให้ผู้ป่วยฟื้นคืนสู่สภาพปกติ นอกจากนี้ภาวะเสื่อมถอยของอวัยวะ จะทำให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายเข้าสู่กระบวนการใกล้ตายอีกในระยะเวลาไม่นาน
กระบวนการยื้อชีวิต มักทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานมากขึ้น และอาจเสียชีวิตในสภาพที่สับสนวุ่นวาย ขณะที่ครอบครัวพลายโอกาสใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับผู้ป่วยในบรรยากาศที่สงบ
ผู้สื่อสารเจตนาแทน
ในกรณีที่ท่านป่วยระยะสุดท้าย อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถสื่อสารได้ ท่านอาจต้องการผู้ทำหน้าที่สื่อสารเจตนาแทนท่าน ผู้สื่อสารเจตนาแทนควรมีอายุมากกว่า 20 ปี รู้จักความต้องการและข้อกังวลของท่านเป็นอย่างดี ได้รับการยอมรับจากครอบครัวของท่าน เต็มใจทำหน้าที่ยืนยันเจตนาแทนท่าน และจัดการสถานการณ์ตึงเครียดได้
หนังสือแสดงเจตนาเลือกวิธีการรักษาในช่วงสุดท้ายของชีวิต
หลังจากที่ฉันทบทวนชีวิตในสมุดเบาใจ รู้จักการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองแล้ว ฉันต้องการแสดงเจตนาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในกรณีที่โรคของฉันดำเนินมาถึงระยะสุดท้าย และฉันไม่สามารถสื่อสารได้ ดังนี้
กรณีที่ฉันป่วยระยะสุดท้าย และไม่สามารถสื่อสารได้ คนที่จะสื่อสารเจตนาแทนฉัน คือ
การจัดการร่างกายและงานศพ
(คลิกหน้าหัวข้อที่ท่านเห็นด้วย)
หลังทำสมุดเบาใจเสร็จแล้ว ท่านควรทำสิ่งเหล่านี้ เพื่อการสื่อสารเจตนาที่สมบูรณ์
- สื่อสารความต้องการของท่านในสมุดเบาใจให้ครอบครัว หรือผู้สื่อสารเจตนาแทนท่าน ได้รับรับรู้และยอมรับเจตนาของท่าน
- ถ่ายเอกสารเนื้อหา "หนังสือแสดงเจตนาเลือกวิธีการรักษาในช่วงท้ายของชีวิต" และ "การดูแลอื่นๆที่ฉันต้องการ" เก็นไว้ในแฟ้มประวัติเวชระเบียนในโรงพยาบาลที่ท่านสังกัด
- ถ่ายสำเนาชุดหนึ่งให้ครองครัวหรือผู้สื่อสารเจตนาแทนท่าน ส่วนสมุดเบาใจฉบับจริงเก็บไว้กับตัวเอง
- เมื่อเงื่อนไขสุขภาพของท่านเปลี่ยนไป เช่น พัฒนาการโรครุนแรงขึ้น หรืออยู่ในช่วงชีวิตเหลือเวลาจำกัด ท่านควรทบทวนสมุดเบาใจ และหารือกับทีมสุขภาพเพื่อวางแผนสุขภาพล่วงหน้า
หมายเหตุ หากท่านต้องการสมุดเป็นใจเป็นเล่มที่สามารถซื้อได้ ที่นี่
คุณได้เขียนสมุดเบาใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว
คุณสามารถดาวน์โหลด PDF ในอีก 2 วินาที
ระบบไม่ได้บันทึกข้อมูลแต่อย่างใด หากต้องการดาวน์โหลดอีกครั้งท่านต้องกรอกข้อมูลใหม่
สมุดเบาใจออนไลน์อาจมีข้อความที่แตกต่างจากสมุดเล่มเล็กน้อยเพื่อสะดวกในการกรอกข้อมูล แต่ยังคงเจตนาที่เหมือนกัน
จากคณะผู้จัดทำ
โครงการชุมชนกรุณา